วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ตอนที่ 10-12

ตอนที่ 10: เผาป่า หาพ่อง!

    ถ้าพูดถึงเชียงใหม่ หลายคนติดภาพยอดดอยอินทนนท์ ยอดดอยสุเทพ แม่คะนิ้งสะดิ้งรัก หมีแพนด้า 3 ตัวอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำหันตูดให้คนเสียเงินเข้ามาดู  ผู้คนใส่เสื้อกันหนาว เดินจูงมือไปกับคู่รักแล้วถ่ายรูปคู่กันบนยอดดอย...

 ดอยอินทนนท์ ก็คนมันรัก
แม่คะนิ้ง สะดิ้งรัก

 ดอยสุเทพ อักเสบรัก
ถ่ายรูปคู่ ชูชื่น

    มันก็ใช่ มันก็จริง แต่นั่นมันหน้าหนาวว้อยยยย!!! ตอนนี้มันหน้าร้อนเฟร้ย ร้อนเวอร์ไม่แพ้ในกรุงเทพเลย แล้วไม่ใช่แค่อากาศร้อน ก็อย่างที่คุณๆรู้กัน ว่าตอนนี้ภาคเหนือเค้าฮิตประเพณีเผาเทียนเล่นไฟกันอยู่ พวกเล่นเผาป่ากันฮะ แล้วไอ้คนที่เผาส่วนใหญ่แม่มอยู่บนดอยฮะ แม่มไม่รู้หรอกฮะว่าเขม่าควันที่แม่มเผามันปลิวตกลงมาในเมืองด้านล่าง ใครไปถ่ายรูปเมืองเชียงใหม่จากบนยอดดอยสุเทพแล้วคิดว่าเฮ้ยมีหมอกล้อมเมืองด้วย หมอกบ้านอาอึ้มมึงสิมีตอนเที่ยง แดดร้อนเปรี้ยง ฮ่วย!

 ภาพเมืองเชียงใหม่ในหมอกควันจากยอดดอยสุเทพ

     ภาพประกอบจากรายการข่าว จะเห็นว่าตามมาตรฐาน ไม่ควรมีเขม่าเกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่พวกล่อเข้าไปถึงสามร้อย เมิงจะเผาเอา world record กันรึไง

   แล้วที่สเลดเป็ดกว่านั้นคือ ออกข่าวกันเข้าไป รณรงค์ประชาสัมพันธ์ทางทีวีกันเข้าไป ติดป้ายข้างทางกันเข้าไป แต่ไอคนเผามันอยู่บนเขาครับ เค้าไม่มีไฟฟ้าไปถึงครับ มีไฟไปถึงเค้าก็ไม่มีทีวีดูครับ แล้วมันจะรู้เรื่องกันมั๊ยสาดดด ถามคนท้องถิ่นว่าแล้วส่วนใหญ่เค้าจะเผาไร่เผาป่ากันทำไม เผาไล่ที่ เผานั่งยาง เผาประชดชีวิต เผาหนีภาษี หรือซ้อมเผาก่อนจะไปเผาเซ็นทรัลเวิร์ลอีกรอบ$^*%&$%^ (โดนดูดเสียง) หรืออย่างไรกัน คำตอบที่ได้คือ......


"ก็เฮาจะเผาเอาเห็ดเผาะ กับผักหวานนิ"

    อีเห็ดสด!!!!!! มันคุ้มมั๊ยฮะ!? เมิงเห็นแก่ตัวเกินไปมั๊ยอะ เมิงเล่นเผาป่าล้างบางสัตว์ เครื่องบินต้องหยุดบิน คนเป็นมะเร็งปอด การท่องเที่ยวเสียหาย เพราะเห็ดเผาะกับผักหวาน!? ตามข่าวบอกว่า เฮ้ยมันต้องเผา ถ้าไม่เผาผักหวานจะไม่แตกยอด เห็ดเผาะจะงอกออกมาไม่ได้เพราะมีพืชและหญ้าคลุมดินหนาเกินไป...  (ข่าวอ้างอิง: http://www.thairath.co.th/content/edu/239875)

   อย่างที่รู้ๆกันว่าสาวๆที่นี่เค้าผิวขาวผ่องเป็นยองใย หน้าใส ถ้าจะออกนอกบ้านทุคนต้องแต่งตัวสวย แต่งหน้าเด้ง เสื้อผ้าจัดเต็ม เล่นเอาชินหายใจแรงทุกครั้งที่ได้เจอ คือถ้าจะมีใครตายเพราะสูดเขม่าควันเข้าปอดเยอะเกินไป ชินคงเป็นคนแรกแน่นอน!

    เอาเป็นว่าชินจะไม่กินเมนูที่มีส่วนผสมของพืชสองชนิดนี้เด็ดขาด จะว่าไปวันนี้อากาศก็ร้อนโฮก จั๊กฉ่ำแฉะเวอร์ เฮ้อ ซักผ้าเสร็จละ(ซักเครื่องหยอดเหรียญ) จะขึ้นไปเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำแล้วนอนเกลือกกลิ้งบนเตียงอันนุ่มนิ่มแบบชินจังเลย พอชินเดินเท้าห้าชั้นถึงห้อง

- จั๊กฉ่ำ
- เปิดประตูห้อง
- ปิดประตูห้อง
- เปิดแอร์
- เสียงคอมเพรสเซอร์แอร์ดัง
- เสียงคอมเพรสเซอร์แอร์ดับ
- เปิดประตูห้อง
- จั๊กฉ่ำ
- นอนบนพื้นกระเบื้องแข็งๆ (อย่างน้อยพื้นกระเบื้องก็เย็นกว่าเตียง)

    ใช่ครับ ไฟดับครับ แล้วมันต้องดับตอนชินเดินขึ้นถึงห้องแล้วและเพิ่งเปิดแอร์ไป 1 นาทีด้วยนะ ถ้ารู้ว่าดับก่อนขึ้นหอ ชินจะได้ไปซื้อน้ำแข็งร้านขายของชำข้างหอมาถูหลังเล่นคลายร้อน แต่นี่มันโหดร้ายไปป้ะ ส่วนสาเหตุของไฟดับคือ....

รถการไฟฟ้ามาซ่อมสายไฟ... ฮ่วย!

สู้ต่อไปนะ ชินิโกะ...

ตอนที่ 11: กาดสวนแก้ว ไม่แห้วรัก

    หากพูดถึงศูนย์การค้าเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่ หลายๆคนคงนึกถึงกาดสวนแก้ว ซึ่งได้เปิดทำการตั้งแต่ปี 2535 นับว่าเก่าแก่มากทีเดียว แต่ทุกวันนี้สภาพของกาดสวนแก้วกำลังเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา ด้วยเหตุที่ว่ามีห้างใหม่ๆทั้งที่เปิดแล้ว และกำลังจะเปิดอีกเร็วๆนี้ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลแอร์พอร์ต เซ็นทรัลเฟสติวัล และ พรอมเมนาด้า ทำให้ภาพในหัวผมมองกาดสวนแก้วเป็นอย่างนี้


กาดสวนแก้ว


ความเป็นจริง


สิ่งที่ผมเห็น


ส่วนเซ็นทรัลแอร์พอร์ท

ความเป็นจริง


สิ่งที่ผมเห็น
     ก็อย่างที่ผมบอกน่ะแล่ะครับ กาดสวนแก้วทุกวันนี้มีการจัดผังร้านค้าที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ร้านค้าแบรนด์เนมแทบไม่มีเหลือ ร้านค้าเป็นแนวจตุจักร ประตูน้ำมากกว่า แล้วก็มีโซนร้านขายมือถือแนวมาบุญครอง พันธ์ทิพ ยังดีตรงที่มีส่วน department store ของเซ็นทรัล และท๊อปซุปเปอร์มาเก็ตไว้ดึงคนเข้ามาบ้าง ในสายตาชินกาดสวนแก้วก็เป็นห้างเก่าๆ ได้อารมณ์ฟิวเจอร์ปาร์คบางแคก่อนโดนซีคอนมาเทคโอเวอร์ แต่ด้วยที่เป็นห้างไม่ไกลที่พักชินมากนัก ช่วงสัปดาห์แรกก็ไปมันซะสามรอบได้ ยังไม่ได้มีโอกาสไปเซ็นทรัลแอร์พอร์ทจนกระทั่งวันนี้ฮะ (10/04/13)




     ย้อนไปสองวันก่อน ตาลมารับชินที่สนามบิน และไปทานข้าวเย็นกันที่กาดสวนแก้ว หลังจากทานเสร็จ ก็คุยว่าไปดูพี่มากพระโขนงกันมะ (ตอนนั้นทะลุ 200 ล้านบาท) ก็เดินขึ้นห้างไป หาทางไปโรงหนังอยู่ซักพัก ก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่โรงของ EGV, SF, Major อะไรทั้งนั้น แต่เป็นโรง "Vistra" ลองเข้าไปดูในเว็บไซท์เค้าดูนะครับ น่ารักดี เป็นเว็บบล็อค http://vistashowtime.blogspot.com/ ส่วนเฟสบุคเค้าไม่ต้องไปเข้านะครับ ไม่อัพมาเกือบสองปีละ พอไปถึงโรงตอนสองทุ่ม มีรอบสองทุ่มครึ่ง คนขายตั๋วบอก รอบเต็มครับ ต้องรอรอบสามทุ่มครึ่ง เราสองคนเห็นว่าดึกเกินไป เลยพักโครงการนี้ไว้ก่อน ชินก็เดินจากกาดสวนแก้วมา ในใจนึกแต่ว่า ชิชะ เดี๋ยวกรูจะไปดูที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ท สบายๆให้หายอยากเลย ไม่มาง้อกาดสวนแก้วแล้ว เชอะ!

    สองวันต่อมาชินก็ขับมาถึงเซ็นทรัลแอร์พอร์ต ชินตั้งใจเต็มที่ว่าจะมาดูพี่มากให้ได้ (มาดูคนเดียว ตาลไม่ว่างยาว และสงกรานต์ก็ต้องเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด) วันนี้เป็นวันพุธ ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายครึ่ง บอกกับตัวเองในใจวันธรรมดาคนไม่เยอะน่ะ เรียนตอนเย็นตั้งหกครึ่ง ยังไงก็ทันน่ะ ขับไปถึง ชิบหายละ ไม่มีที่จอด ขนาดจอดกลางแจ้งข้างนอกนะ จอดในร่มชั้นใต้ดินอย่าได้ฝัน จอดไกลขนาดต้องไปขึ้นรถบริการรับส่งจากที่จอดรถถึงตัวห้างเลยอะ เอาวะ ห้างเค้าดีคนเลยเยอะไง ว่าแล้วก็ขึ้นไปถึงชั้นโรงหนัง สิ่งที่ชินเจอคือ...

แถวที่ขายตั๋วยาวเหยียด

ถึงขั้นแบ่งช่องขายตั๋ว 3 แถวเพื่อคนที่จะมาดูหนังเรื่องพี่มากโดยเฉพาะ
     พยายามมองโลกในแง่ดี เอาวะ ก็หนังเค้าดีนี่หว่า คนเยอะก็เป็นเพราะมันปิดเทอมนิ เลยยอมเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อไปซื้อตั๋วเรื่องนี้โดยเฉพาะ ไปยืนได้แป๊บเดียว เจ้าหน้าที่ก็เดินมาประกาศในแถวว่า "หนังเรื่องพี่มากเต็มแล้วนะคะ มีอีกทีก็รอบห้าโมงสิบค่ะ".......
       อ๊ากกก ว๊ากกก ม่ายยยยย ไม่จริงน่ะ เอาไงดีวะเนี่ย เรียนหกครึ่งจะไปดูรอบห้าโมงได้ไงวะ สุดท้ายชินก็เลย...

ใช่ครับ มันคือโรงวิสต้า ที่กาดสวนแก้ว
ตั๋วพี่มาก
        ชินขับรถบึ่งกลับมาที่กาดสวนแก้วอีกครั้ง พร้อมกับมุ่งตรงไปที่ขายตั๋วของโรงวิสต้า รอบเร็วสุดมีตอนบ่ายสองสี่สิบห้า เพิ่งค้นพบข้อดีของการดูหนังคนเดียวก็วันนี้แหละครับ ตอนเลือกที่นั่ง หน้าจอแดงเถือก คือไม่เหลือที่แล้วฮะ เต็มจนถึงที่นั่งแถวแรกหน้าจอ!!! โชคดีทีจุดสีฟ้าเล็กๆอยู่หนึ่งจุดท่ามกลางพื้นที่สีแดงเลือด เข้าใจทฤษฎี Blue Ocean ก็วันนี้นี่แหละครับ เอาจริงๆสภาพโรงก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะครับ ที่นั่งอาจจะเป็นเบาหนังเทียม ไม่ได้นุ่มนิ่ม และเล็กไปซะหน่อย (พวกน้ำหนักเก้าสิบโลขึ้นไม่น่าจะนั่งได้ หรือถ้านั่งได้ก็ลุกไม่ได้เพราะติดตูดชัวร์ๆ) แต่ราคาตั๋วถูกมากครับแค่ 90 บาท ป็อปคอร์น 35 บาท น้ำอัดลมแก้วละ 20 บาท แถมไม่มีโฆษณาก่อนหนังฉายด้วย จะมีก็แค่หนังตัวอย่างสามสี่เรื่องเท่านั้น สุดท้ายก็ได้ดูพี่มากพระโขนงสมใจ ยะฮู้ และก็ทะลุ 300 ล้านไปเรียบร้อยแล้วฮะ

    ก็เป็นอย่างชื่อตอนของตอนนี้นั่นแหละครับ กาดสวนแก้วอาจจะดูเก่า ไม่ทันสมัยเท่าห้างใหม่ๆที่เปิดแข่ง เงินทุนก็น้อยไม่พอเอามาพัฒนาห้างแข่งกับเขา แต่ผมว่าที่นี่มันมีมนต์ขลังนะครับ จะมีฟู๊ดคอร์ทในห้างที่ไหนที่มีดนตรีสดมาบรรเลงเพลงกล่อมคนกินข้าว ตัวตึกตกแต่งด้วยก้อนอิฐแดงดูขลังและคลาสสิก คนไม่เบียดเสียดเกินไป เวลาเดินก็ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องรีบกิน รีบไป เดินชิลๆได้เรื่อยๆ ได้อารมณ์ยก community mall มาไว้ในห้าง คือถ้าเราจะหาห้างที่มันทันสมัย อลังการ ขายแต่ของแบรนด์เนม มันหาไม่ยากนะ แต่ถ้าจะหาห้างที่เติบโตมาพร้อมกับเมืองๆนึง มีสเน่ห์มนต์ขลังแบบกาดสวนแก้ว จะมีแบบนี้สักกี่ห้างกัน? เอาเข้าจริงๆชินชักเริ่มชอบที่นี่ซะแล้วแฮะ...

ประวัติ กาดสวนแก้ว
กาดสวน ชวนเสียว


ตอนที่ 12:  จัดหางาน ประสานรัก


    มาอยู่นี่ได้เกือบสามอาทิตย์ละ ถึงเวลาที่ชินจะต้องหางานทำจริงจังซะที ว่าแล้วก็ลองขับไปสำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ดู ขับจากตัวเมืองขึ้นไปทางแม่ริมไม่ไกลก็จะเป็นว่าสำนักงานจัดหางานอยู่ทางด้านขวามือ ในหัวชินคิดแบบเรียบง่ายว่า เอาวะ ลองไปหาตำแหน่งงานว่างดูเผื่อจะได้ไปสมัคร

      จอดรถเสด เดินลงรถก้าวแรกเงยหน้าดูป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆพาลให้เข้าใจผิดว่า เอ๊ะที่นี่เค้าใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาราชการอันดับสองหรือยังไงกัน คือแทบทุกป้ายประชาสัมพันธ์ที่มีภาษาไทย จะต้องมีแปลภาษาพม่ากำกับข้างล่างทุกป้ายไป พอเดินเข้าไปข้างใน โอ้บร๊ะเจ้า นึกว่าอยู่ใจกลางกรุงหงสาวดี มีแต่คนพม่าทั้งนั้นเลยฮะ และทุกเคาเตอร์ก็จะมีป้ายภาษาไทยแปลพม่าข้างล่างอีกเช่นเคย นึกในใจว่า เอ๊ะ นี่กูมาหาตำแหน่งงานว่างหรือกูมาขึ้นทะเบียนแรงงานพม่ากันแน่วะเนี่ย

      เลยแกล้งทำเป็นเดินดูนู่น นั่น นี่ ก็เลยสรุปได้ใจความว่า หลักๆแล้ว ที่นี่มีไว้เพื่อ
1.คนไทยพาแรงงานพม่ามาขึ้นทะเบียน
2.แรงงานพม่ามาต่อทะเบียนต่างด้าว

      ว่าแล้วชินก็เดินออกมาเพราะเกรงว่าคนจะเข้าใจผิดว่าชินมาต่อทะเบียนต่างด้าว ส่วนไอเรื่องหาตำแหน่งงานว่างนั้น ง่ายมากครับ ไม่ต้องขับรถถ่อมาถึงสำนักจัดหางานก็ได้ แค่ชินเข้าไปใน....

http://cmemployment.org/job-index.asp
http://www.jobnorththailand.com/joblist.php

จบเห่...

2 ความคิดเห็น:

  1. sometiems the wrong choice takes us to the right place นะแก

    เช่นเดียวกับโรงหนังกาดสวนแก้ว ๕๕๕๕๕๕
    ขำเรื่องไฟดับ ที่นี่ก็ดับบ่อยเหมือนกัน โดดลงทะเลแม่งเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริงอย่างที่เค้าว่า บางทีแรงบันดาลใจมันได้จากการเดินทาง ถ้าเก็บหมกตัวอยู่ในห้องทุกวันๆ ก็ไม่มีเรื่องราวอะไรใหม่ๆมาเขียนเล่าสู่กันฟัง โลกใหญ่เท่าที่เราเดินทาง หลังจากนี้เราจะพยายามเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะได้เรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังนะ... T-T

      ลบ